in , ,

ภาวะไตวาย กับการกินคีโต และคาร์นิวอ ไดเอท

ภาวะไตวาย กับการกินคีโต และคาร์นิวอ ไดเอท

ไตหาหัวจาม ตามหาหัวใจ  เอ้ย ไม่ใช่! วันนี้หมอจะมาพูดเรื่องไตวาย ไตเสื่อมสภาพ โรคเบาหวาน และการรับประทานอาหารหรือลดน้ำหนักที่เหมาะกับคนที่กังวลหรือกำลังเป็นโรคไต การรับประทานอาหารแบบคาร์นิวอร์ ไดเอท, คีโตจีนิค และ IF มีนัยสำคัญในการช่วยรักษาสุขภาพ แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไตระดับ 2 ขึ้นไป มาอ่านรายละเอียดกันเลยครับ

ไตวายคืออะไร?

ไตวาย คือ ภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ ไม่สามารถกรองของเสียหรือสารพิษออกจากเลือดได้อย่างปกติ

หน้าที่ของไตคืออะไร?

“ไต” เป็นอวัยวะสำคัญ มีรูปร่างคล้ายถั่ว มีอยู่สองข้างอยู่บริเวณบั้นเอวไปทางด้านหลังของร่างกาย สามารถเสื่อมได้ตามอายุที่มากขึ้น โดยปกติแล้ว ไตมีหน้าที่หลัก คือ กำจัดของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญในร่างกาย และควบคุมสมดุลกรดเบส และ เกลือแร่ รวมทั้งสร้างฮอร์โมนและควบคุมความดันโลหิต ไตสามารถเสื่อมสภาพได้หลายรูปแบบ ประกอบด้วย ไตวายฉับพลัน ไตวายเรื้อรัง หินปูนในไต เป็นต้น

สาเหตุของไตวาย

ภาวะไตวายเรื้อรัง สาเหตุหลักมักเกิดจากการเป็นโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง (แปะดาวสามดวงย้ำไว้เลยครับ สาเหตุยอดฮิต)

ไตวายมี 3 ประเภท

1. ไตเสื่อมสภาพฉับพลัน Acute Renal Failure

ภาวะไตวายฉับพลัน หรือ ไตเสื่อมสภาพฉับพลัน จู่ ๆ ไต ก็เสื่อม ไม่สามารถทำงานได้ตามระดับปกติ มีสาเหตุเกิดจากเนื้อเยื่อไตถูกทำลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ไตทำงานผิดปกติ ส่วนการที่เนื้อเยื่อไตถูกทำลายอย่างรวดเร็วนั้น สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากผลข้างเคียงจากการเป็นโรค เช่น โรคหัวใจล้มเหลว โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด การแพ้ยา รวมไปถึงการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ส่วนอุบัติเหตุนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่สามารถทำให้เนื้อเยื่อไตถูกทำลายได้เช่นกัน แต่เกิดขึ้นน้อยกว่าโรคที่กล่าวไปข้างต้น

อย่างไรก็ตาม ภาวะ “ไตเสื่อมสภาพฉบับพลัน” หากหาสาเหตุได้ ก็มีโอกาสที่จะทำให้การทำงานของไตกลับมาเป็นปกติได้ครับ

2. ไตเสื่อมสภาพเรื้อรัง Chronic Renal Failure

ภาวะ “ไตเสื่อมสภาพเรื้อรัง” หมายถึงภาวะที่ไตค่อย ๆ เสื่อมสภาพ ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่เป็นปี ก็เลยเรียกว่าไตวายเรื้อรัง มักเกิดกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ความดัน ซึ่งทำให้การกรองของไตผิดปกติ ภาวะไตเสื่อมสภาพเรื้อรังสามารถแบ่งความรุนแรงได้เป็น 5 ระดับ ยิ่งระดับสูงขึ้น ความรุนแรงของโรคก็มากขึ้น และสามารส่งผลให้เกิดการขับของเสียหรือการปรับสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ

3. ไตวายระยะสุดท้าย หรือ ESRD (End Stage Renal Disease)

สภาวะไตวายระยะสุดท้าย คือ สภาวะที่ไตทำงานไม่ดี หรือ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการกรองของเสียภายในร่างกาย ทำให้ของเสียคั่งค้างอยู่ในร่างกาย เมื่อเกิดไตวายระยะสุดท้ายแล้ว ทางแพทย์ผู้ดูแลก็จะมีการพิจารณาเรื่องการทำ “เส้นฟอกไต”

และตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อที่ 2 เรื่องไตวายเรื้อรังว่าระดับความรุนแรงมี 5 ระดับ “ไตวายระยะสุดท้าย” เทียบได้ว่าเป็นความรุนแรงระดับ 5 และถึงเวลาที่ต้องฟอกไตนั่นเองครับ

เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีภาวะไตเสื่อมสภาพเรื้อรัง มีมากถึง 15% ของประชากรทั้งหมดในโลก และสาเหตุส่วนใหญ่ ก็มาจากการเสื่อมสภาพไปตามอายุที่มากขึ้นครับ

ส่วนสาเหตุยอดฮิต ที่นำไปสู่สภาวะไตวายระยะสุดท้าย ก็คือ โรคเบาหวานครับ นอกจากนี้ก็ยังมีโรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม โรคความดันโลหิตสูงนั้นก็มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน ฉะนั้นทุก ๆ ท่านควรดูแลรักษาร่างกายให้ห่างไกลจากโรคเหล่านี้

การลดน้ำหนัก กินคีโต Keto และ คาร์นิวอร์ ไดเอท (Carnivore Diet) ช่วยอะไรกับคนเป็นโรคเบาหวานได้บ้าง?

ดังเช่นที่กล่าวไว้ในข้อ 3 เรื่องไตวายระยะสุดท้าย ว่าสาเหตุหลักนั้นมาจากโรคเบาหวาน รองลงมาคือโรคความดันโลหิตสูง แต่คนที่เป็นความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุมาจากการเป็นโรคเบาหวานอยู่ดี โดยการเป็นโรคเบาหวาน หรือ การที่มีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ก็ส่งผลให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ Glycation end-products(AGEs) มาจับกับน้ำตาล ซึ่งเป็นตัวการในการทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ในระยะยาวสามารถทำลายโครงสร้างของเนื้อเยื่อได้ โดยปกติไตของมนุษย์จะทำหน้าที่สำคัญในการกำจัด AGEs แต่เมื่อมีปริมาณน้ำตาลเข้ามามาก และไตก็ทำหน้าที่ซ้ำ ๆ จน AGEs สะสมในไตเยอะ ทำให้ไตเสื่อมสภาพ

การรับประทานอาหารแบบคาร์นิวอ ไดเอท (Carnivore Diet หรือ คีโตจีนิค (Ketogenic) สามารถช่วยได้ เพราะการใช้พลังงานคีโตน เป็นพลังงานที่ทำให้ลดการใช้น้ำตาลในเลือด และลดการสะสม AGES ด้วยเช่นกัน

เมื่อคุณหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มแป้ง หรือ น้ำตาลที่ไม่ดี ก็จะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากคณเลือกที่จะทานอาหารแบบคาร์นิวอไดเอท หรือ คีโต หมอก็ไม่แนะนำให้ทานอาหารกลุ่มแปรรูป หรือ เนื้อแปรรูปนะครับ เพราะอาหารแปรรูปมักประกอบไปด้วยไขมันทรานซ์ และสารที่ทำให้รักษาสภาพ ซึ่งสามารถเป็นพิษต่อร่างกาย อาหารบางประเภทยังมีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสที่มากเกินไปอีกด้วย (ใช้ในการรักษาสภาพ)

คนที่เริ่มเป็นโรคไตเสื่อสภาพ ควรให้ความสำคัญกับการจำกัดเกลือแร่ในร่างกาย เนื่องจากไตของท่านอาจไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างปกติแล้ว

อาการโรคไต

  • คลื่นไส้ หรือ คลื่อนไส้จนอาเจียน
  • รู้สึกไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • มีปัญหาในการนอนหลับ
  • ปัสสาวะผิดปกติ
  • เป็นตะคริวหรือปวดกล้ามเนื้อบ่อย ๆ ซึ่งสัมพันธ์กับการขับออกของเกลือแร่ผิดปกติ
  • ตัวบวม บวมขา บวมเท้า
  • บางคนรู้สึกคันตามตัว
  •  เหนื่อยแน่นหน้าอกได้ในคนที่มีอาการรุนแรงเพราะน้ำคั่งในปอดและหัวใจ
  • ความดันโลหิตสูงเนื่องจากฮอร์โมนในไตควบคุมได้ไม่ดีดังเดิม

การดูแลไตด้วยตัวเอง

มีหลากหลายวิธีในการดูแลสุขภาพไตให้ดีอยู่เสมอ เช่น การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ การดูแลร่างกายให้ลดความเสี่ยงต่อภาวะ NCDs ลดลง และนอกจากนี้ การปรับโภชนาการด้วยการจำกัดคาร์บ หรือ คาร์โบไฮเดรต เช่นการทานคาร์นิวอร์ ไดเอท หรือ คีโตจีนิคไดเอท และ การทำ IF ก็ส่งผลดีในเรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การทานอาหารที่ใช้พลังงานคีโตนก็ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคไตระดับ 2 ครับผม

1. ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสม (Optimal Hydration)

การดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ เป็นพฤติกรรมดีที่ช่วยดูแลไต ช่วยในการกรองของเสียในไต ช่วยเรื่องการปรับสมดุลเกลือแร่และกรดเบส และยังช่วยชะลอการเสื่อมของไตอีกด้วย ในทางกลับกัน หากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ ก็สามารถส่งผลเสียต่อการทำงานของไตมากขึ้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือมากกว่านั้น เทคนิคที่สำคัญที่หมออยากแนะนำคือ ให้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อยครึ่งลิตร – หนึ่งลิตรในช่วงเช้า

2. การจำกัดเวลากินอาหาร (Intermittent Fasting)

มีงานวิจัยรองรับมากมายถึงประโยชน์ของการจำกัดเวลากินอาหาร ทั้งในเรื่อง กระตุ้นภูมิต้านทาน  กระตุ้นเซลล์ให้ผลัดเปลี่ยนเป็นเซลล์คุณภาพดี และที่สำคัญการเพิ่มประสิทธิภาพให้ฮอร์โมนที่สำคัญอย่างอินซูลินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ความดัน รวมไปถึงภาวะไตเสื่อมด้วยนั่นเองครับ

สรุปใจความสำคัญได้ว่า ไตเป็นอวัยวะสำคัญ เสื่อมได้ตามอายุที่มากขึ้น การถนอมไต ทำได้ด้วยการดื่มน้ำให้มาก กินอาหารโภชาการที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อไม่เรื้อรังอย่างเบาหวานและความดัน และควรฝึก IF ด้วยครับ

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Why Are the Kidneys So Important? National Kidney Foundation.
  2. How do the kidneys work? PubMed Health, 2018 March.
  3. Brown L, Clark P, et al., Identification of Modifiable Chronic Kidney Disease Risk Factors by Gender in an African-American Metabolic Syndrome Cohort, 2010 Mar-Apr; 37(2): 133-142.
  4. Busch M, Franke S, et al., Advanced glycation end-products and the kidney. 2010 Aug; 40(8): 742-55.
  5. Nazar C, Bojerenu M, et al., Efficacy of dietary interventions in end-stage renal disease patients; a systemic review. 2015 Oct; 5(1): 28-40. PMID: 28197497
  6. Bouby N, Clark W, et al., Hydration and Kidney Health. 2014 May; 7(Supp 2): 19-32. PMID: 24853348
  7. Mattson MP, Longo VD, Harvie M, Impact of intermittent fasting on health and disease processes. 2017 Oct, 39: 46-58; PMID: 27810402
  8. https://drjockers.com/kidneys-health-natural-remedies

This post was created with our nice and easy submission form. Create your post!

What do you think?

การลดน้ำหนักกิน "คาร์นิวอ ไดเอท" กับภาวะเลือดเป็นกรด ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

การลดน้ำหนักกิน “คาร์นิวอ ไดเอท” กับภาวะเลือดเป็นกรด ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

กินคาร์นิวอร์ไดเอทแล้วเมาเร็วจริงหรือ