ลาออกจากงานดีไหม เมื่อใจอ่อนล้า มาถึงจุดหนึ่งมนุษย์เงินเดือนคงกำลังมองหาเหตุผลลาออกจากงาน ต้องการเปลี่ยนงานกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเพื่อนร่วมงาน ตัวงานเอง ความท้าทายที่ทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น หรือปัญหาอื่น ๆ การลาออกจากงานมีสิ่งสำคัญอยู่สิ่งหนึ่งนั่นคือว่า คุณควรมีเงินเก็บสำรองพอที่จะใช้ในอนาคตข้างหน้า อย่างน้อย 6 เดือนระหว่างที่คุณยังไม่มีงานทำ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้คิดที่จะลาออกจากงานอย่างหุนหันพลันแล่นอยู่แล้ว เพียงแต่อยากเปลี่ยนงาน แต่ยังไม่มั่นใจในเหตุผลของตัวเอง มาลองเช็กดูกันว่าความคิดของคุณตรงกับข้อไหนบ้าง

1. ไม่มีความสุขกับการทำงาน

ความสุข เป็นสิ่งที่มีผลต่อสภาวะร่างกาย เมื่อไรก็ตามที่คุณไม่มีความสุข เต็มไปด้วยความเครียดและความกดดัน ร่างกายสามารถแสดงออกเป็นสัญญาณเตือนได้มากมาย อาทิ ปวดหัวไมเกรน โรคเครียด และอีกมากมาย ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นไปด้วยอะไรก็ตาม หากคุณไม่มีกำลังใจที่อยากจะตื่นมาทำงาน ก้าวไปในออฟฟิศที่คุ้นเคยแล้ว การหางานใหม่ อาจเป็นทางออกที่เหมาะสม งานคือเงิน เงินคืองาน แต่ชีวิตและจิตใจนี่สิที่เราต้องอยู่กับมันตลอด 24 ชั่วโมง หากงานทำให้คุณเป็นทุกข์ คุณอาจรีบมองหางานใหม่ เพื่อเริ่มต้นอนาคตที่อาจจะสดใสหรือดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องบ่นกับตัวเองจนก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพจิตต่อไป

2. ไม่ได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มขึ้นเลย

ทำงานมานาน ทำดีเท่าไรก็ไม่ถูกใจนาย ถูกย้ายไปอยู่แผนกที่ไม่มีความก้าวหน้าหรือได้พัฒนาศักยภาพเพิ่มขึ้นเลย เหมือนชีวิตรอให้ผ่านไปวัน ๆ หากเกิดความรู้สึกนี้เมื่อไร อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณจะก้าวออกจาก Comfort Zone เริ่มต้นเรียนปริญญาโท เอก หรือ หลักสูตรสั้น ๆ หรือ เริ่มต้นหางานใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม

3. งานหนักขึ้น แต่เงินไม่เพิ่ม

งานหนัก แต่เงินไม่เพิ่ม … องค์กรที่ไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการระบบ หรือ วัยรุ่นสมัยนี้มักพูดติดปากกันว่า “ที่ทำงานไม่ Healthy” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้คนอยากลาออก หากมั่นใจแล้วว่าคุณไม่พร้อมโต หรือ ไม่อยู่ในตำแหน่งที่สามารถแก้ไขอะไรได้จริง ๆ หัวหน้างานไม่สามารถซัพพอร์ตให้ที่ทำงานดีขึ้นได้ ก็อาจจะถึงเวลาที่จะต้องก้าวเดินไปในหนทางใหม่ สิ่งสำคัญคือ หาเงินสำรองล่วงหน้า หาที่ทำงานใหม่ที่พร้อมเสี่ยงและมั่นใจว่าจะดีจะร้ายแต่ก็ถือว่าเป็นก้าวต่อไป

4. มีงานใหม่ที่ดีกว่ารออยู่

ถ้าเหตุผลที่อยากออกจากงานเป็นเพราะคุณมีงานใหม่ที่ดีกว่ารออยู่แล้ว ต้องกลับไปต่อยอดธุรกิจที่บ้าน หรือกำลังคิดจะทำธุรกิจส่วนตัว หรือมีสถานที่ทำงานใหม่เสนอตำแหน่งที่สูงขึ้นและเงินเดือนที่สูงกว่า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในชีวิต มองเห็นลู่ทางความสำเร็จ ก็คว้าเอาไว้ค่ะ อย่าจมปลักกับที่เดิม

5. มีลูกแล้วอยากออกจากงาน

ช่วงอายุ 1 – 5 ขวบของลูกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ลูกกำลังต้องการคุณ เป็นระยะเวลาที่คุณสามารถหล่อหลอมต้นกล้าต้นเล็ก อย่างลูกของคุณให้โตมาเป็นเด็กที่มีความสุขหรือไม่มีความสุขต่อโลกนี้ก็ได้ หากคุณแต่งงาน มีลูก และสามารถพร้อมเปย์แล้ว (และที่สำคัญคือสามีต้องการหรือเต็มใจให้คุณลาออกด้วย) การลาออกอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องกังวลต่อไป ยกเว้นเสียแต่นั่นหล่ะ ถ้าหากครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงิน ก็อาจจะยังไม่ควรลาออก มิเช่นนั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องหนีเสือปะจรเข้ หนีปัญหางาน มาเจอปัญหาที่บ้านต่อ ทะเลาะกันไปอีกยาว หากไม่มีปัญหาก็ออกได้ แต่หากมีปัญหาก็ทนกับงานต่อไปดีกว่า หางานใหม่เปลี่ยนงานบ้างอะไรบ้าง

6. อยู่ไปไม่เห็นอนาคต

ทำงานมาก็หลายปี แต่ไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งกับเขาสักที เมื่อสามปีที่แล้วได้เงินเท่าไหร่ ตอนนี้ก็ยังได้เท่าเดิม อยู่ไปอยู่มาเริ่มมองไม่เห็นอนาคตตัวเองกับบริษัทนี้แล้ว ขอบอกเลยว่าถ้าใครกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ นี่เป็นเหตุผลที่คุณถึงเวลาต้องออกจริงๆ แล้วค่ะ

บริษัทบางแห่งอาจไม่มีกำไรมากพอที่จะทำธุรกิจด้านเดิมต่อไป หรือ ลงเงินเพื่อขยายธุรกิจ หรือ ผลงานของคุณอาจไม่เป็นที่ต้องตา หรือ ขัดขาใครต่อใคร ไม่มีเหตุผลที่คุณควรทนต่อไป ตั้งใจหางานใหม่ The Show Must Go On

7. มีปัญหาสุขภาพ

พนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งหน้าคอมเป็นเวลานานๆ แน่นอนว่าต้องเจอกับปัญหาสุขภาพอย่างออฟฟิศซินโดรม ทั้งปวดหลัง ปวดหัว สารพัดปวด ทำงานไปก็มีแต่ความเครียด ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนเลย สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ

8. ไม่ชอบงานที่ทำอยู่

บางทีคนเราก็ทำงานเพื่อผลตอบแทนจริงๆ งานที่ทำอยู่ให้เงินดี แต่ไม่ได้เป็นงานที่ชอบหรือถนัดตั้งแต่แรก อยู่ไปนานๆ อาจเกิดความรู้สึกไม่อยากทนทำเพื่อเงินอีกต่อไป ถ้าพิจารณาดีแล้วว่าเหตุผลที่อยากออกมาจากลักษณะงานก็ออกเถอะ แก้ไขอะไรไม่ได้

9. มีปัญหากับคนที่ทำงาน

เหตุผลลาออกจากงานยอดฮิตตลอดกาลอย่างมีปัญหากับคนนี่แหละ ที่ไม่ว่าใครจะใจเย็นแค่ไหน ก็ไม่มีทางทนได้ เกิดอยู่ไปอยู่มาไปมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานขึ้นมา บั่นทอนจิตใจเปล่าๆ ถ้าลองเจรจาแล้วไม่เป็นผล ก็เชิดหน้าออกมาเลยค่ะ

10. บริษัทกำลังเจอสภาวะวิกฤติ

ถ้าบริษัทของคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างบริษัทกำลังมีปัญหาด้านการเงิน หรือผู้บริหารของคุณทยอยออกกันทีละคนสองคน นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรรีบออกจากงานไปหางานใหม่ ดีกว่ารอให้บริษัทเจ๊งลงตรงหน้าคุณ

ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องแบบนี้ควรไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน อย่าวูบวามเป็นอันขาด เพราะถ้าตกงานขึ้นมานี่แย่แน่ๆ แต่ถ้าคุณลองเช็กเหตุผลที่อยากลาออกจากงานตามทั้ง 10 ข้อนี้แล้ว และคุณรู้สึกว่ามันตรงกับเหตุผลที่คุณมีในใจอยู่แล้วหลายข้อ ก็ควรเสี่ยงลาออกจากงานเดิม ให้โอกาสตัวเองได้เริ่มทำงานใหม่ๆ ที่ตัวงานใช่กว่า เงินดีกว่า และมีความสุขในการทำงานมากกว่าเถอะค่ะ