in

ดื่มกาแฟอย่างไรให้มีพลัง

ดื่มกาแฟอย่างไรให้มีพลัง

หนึ่งในวิธีการเพิ่มพลังงานชีวิตให้กระปรี้กระเปร่าแน่นอนว่ากาแฟเป็นสิ่งแรกที่หลายๆคนนึกถึง กาแฟเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และโทษในตัวมัน นอกเหนือไปจากรสชาติและกลิ่นหอมที่ทำให้คอกาแฟหลายคนหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วก็ตาม 

ในการศึกษาระยะยาวพบว่ากาแฟมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาความคิดได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ พาร์กินสัน รวมไปถึงอัตราการเป็นเบาหวานประเภทที่สองได้ด้วย กาแฟทำงานโดยการออกฤทธิ์ไปขัดขวางสารสื่อประสาทที่เรียกว่าadenosine ทำให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทชนิดnorepinephrine และ dopamineมากระตุ้นเซลล์ประสาทแทน ส่วนเม็ดกาแฟเต็มไปด้วย สารต่อต้านอนุมูลอิสระเช่น Cafestol ,Quinine,Trigonelline เป็นต้น ซึ่งสามารถช่วยต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่างได้
แต่แน่นอนว่าข้อเสียที่ต้องแลกมาก็คือการติดกาแฟนั่นเองรวมเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น นอนไม่หลับ ปวดมวนท้อง ชีพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง บางคนถึงขั้นมือสั่นเลยก็มี ในความเห็นของผม กาแฟ ควรดื่มเมื่ออต้องการกระตุ้นร่างกายของคุณเท่านั้นและไม่ควรกระตุ้นมันพร่ำเพรื่อ ในคนทั่วไปมักคิดว่ากาแฟควรดื่มตอนเช้าเพื่อความกระปรี้กระเปร่าใช่ไหมครับ นั่นก็ไม่ผิดเพียงแต่นั่นคือการตั้งค่าของจิตใจและสมอง เรากำหนดขึ้นมาเองว่านี่แหละ กาแฟแก้วนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้ฉันรู้สึกพร้อมสำหรับวันนี้แล้วไม่ใช่ฤทธิ์ของกาแฟโดยตรง (ใครงง อ่านซ้ำอีกทีนะครับ  ) ส่วนทางร่างกายนั้นมีการทำงานวิเศษมากอยู่แล้ว เมื่อคุณตื่นนอนใหม่ๆ ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่มีประโยชที่คอยกระตุ้นร่างกายนั้นอยู่ในระดับสูงครับ ดังนั้นเราจะรู้สึกมีพลังในการรู้สึกตัว ใส่ใจสิ่งต่างๆได้มากขึ้นโดยธรรมชาติ ณ เวลานั้นอยู่แล้ว การดื่มกาแฟหลังตื่นนอนจึงไม่ได้ช่วยกระตุ้นร่างกายเลย เพียงแต่เป็นการตั้งค่าให้จิตใจเท่านั้นเอง 

เวลาที่เหมาะในการดื่มคือ ประมาณเก้าโมงครึ่งถึงสิบเอ็ดโมงครึ่งครับ (  9:30-11:30 AM )

อีกครั้งคือ บ่ายสองถึงห้าโมงเย็นครับ (2:00-4:00  PM )   ซึ่งเป็นเวลาที่คอร์ติซอลในร่างกายมีระดับลดลงครับ 

คราวนี้ไฮไลท์ เมื่อคุณทำ IF  ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงดื่มกาแฟกันหนักเช่นกัน เพราะประโยชน์สองเด้งของทั้ง  IF และกาแฟที่เสริมกันในเรื่องของการผลัดเซลล์หรือautophagy เพื่อให้ร่างกายมีประสิทธิภาพดีขึ้น มีข้อแนะนำนิดเดียวครับคือแทนที่จะดื่มกาแฟเมื่อรู้สึกหิว ให้เปลี่ยนเป็นดื่มน้ำเปล่าแล้วจับเวลารอสักครึ่งชม.แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะดื่มกาแฟดีหรือไม่ เพราะเมื่อทำ  IF อาจจะมีอาการนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิทได้ หากร่วมกับกาแฟอีกจะทำให้คุณนอนไม่เพียงพอได้เลยครับ โดยปกติ กว่าที่กาแฟจะหมดฤทธิ์ในร่างกายประมาณ 5 ชม.กว่าๆถ้าคุณดื่มกาแฟหลังสี่โมงเย็นนั่นจะทำให้คุณเสียโอกาสในการนอนเร็วเพื่อหวังผลในการหลั่งโกรทฮอร์โมนในช่วงสี่ทุ่มถึงตีสองได้อย่างน่าเสียดาย แต่ๆๆๆๆ อาจมีบางคนไม่เป็นเช่นนั้น บางคนกินกาแฟก็ยังหลับได้สบายไม่ตื่นกลางดึก นั่นเป็นระบบการทำงานของร่างกายแต่ละบุคคลครับ ไม่ว่ากัน   

กาแฟหนึ่งแก้วโดยทั่วไปจะมีคาเฟอีนประมาณ100-150 มิลลิกรัมครับ ปริมาณที่ช่วยเสริมสร้างความคิดอยู่ที่  20-200 มิลลิกรัมต่อชั่วโมงนั้นๆที่ต้องการใช้ ดังนั้นผมแนะนำให้กินแก้วเล็กๆ บ่อยๆจะช่วยกระตุ้นได้ดีกว่า 

ในการกระตุ้นการสลายไขมันในร่างกาย มีายงานว่าเพิ่มการสลายได้จริงแต่พบในกลุ่มคนที่กินอาหารลักษณะ คีโตจีนิคไดเอท และโลว์คาร์ป ไฮแฟต ส่วนกลุ่มที่กินอาหารปกติดพบประโยชน์เรื่องนี้เล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ดีมีหลายรายงานยืนยันถึงประโยชน์ในแง่การเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานและดื่มก่อนออกกำลังกายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพก่อนออกแรงได้จริง

กินกาแฟแล้วกลัวจะติดมีวิธีแก้ไหม แน่นอนว่าหลายๆคนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มปริมาณกาแฟมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเหมือนว่าร่างกายจะปรบับสภาพแลต่อต้านฤทธิ์กาแฟได้เป็นส่วนใหญ่เมื่อกินไปนานๆ ดังนั้นคำแนะนำนี้อยากมอบให้ทุกคนครับนั่นคือ ต้องมีเวลาสักสัปดาห์ในหนึ่งเดือนที่จะรีเซทระบบรับรู้ของเราด้วย นั่นคือ หยุดกาแฟโดยเด็ดขาด หนึ่งสัปดาห์นั่นเองครับ ยากมากกกกก บอกเลย    
อีกอย่างหนึ่ง กาแฟที่ผมเขียนถึงทั้งหมดนี้คือ กาแฟดำล้วน นะจ้ะ

This post was created with our nice and easy submission form. Create your post!

What do you think?

เป็นแผลเบาหวานที่เท้า ต้องตัดขาหรือไม่

เป็นแผลเบาหวานที่เท้า ต้องตัดขาหรือไม่

ผลัดกล้ามเนื้อเปลี่ยนกระดูกด้วย autophagy